ยิ่งวัดผล คนยิ่งหมดไฟ (จริงหรือ?)
การประเมินผลคือเข็มทิศและหนึ่งในหัวใจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประเมิน “คน” ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของผู้นำและ HR ที่จะต้องสร้างเกณฑ์ ประเมินเพื่อการเติบโตของพนักงานและภาพรวมขององค์กรที่ยั่งยืน
จากสถิติ Gallup พบว่า 50% ของพนักงานมีแนวโน้มที่จะ “ลาออก” จาก 3 สาเหตุหลักอันได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร , ค่าตอบแทน และคุณภาพชีวิต ตามลำดับ หากเราพิจารณาเรื่องวัฒนธรรมองค์กรเราจะพบว่ามีหลายเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องและส่งผล ไม่ว่าจะเป็น วิสัยทัศน์ของผู้นำ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และ แน่นอนการวัดผลพนักงานที่หลายๆ องค์กรนำมาใช้ ซึ่งบ้างก็ส่งผลดี และบ้างก็ทำให้พนักงานเกิดความเครียด กดดันและเกิดพฤติกรรมต่อต้านในที่สุด
วันนี้ Disrupt Technology Venture ได้นำบทความคำแนะนำจากคุณ Mike McDonald, Ph.D. Senior Workplace Consultant ของ Gallup มาสรุปให้ทุกท่านได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า องค์กรของเรา
วัดผลพนักงานอย่างไร และยิ่งวัดผล คนยิ่งลาออก จริงหรือ?
องค์กรมากกว่า 90% มักพึ่งพาการวัดผลทางปริมาณ อย่างเป้าหมายการขาย การประเมินความพึงพอใจของลูกค้า หรือตัวเลขการผลิต แม้ว่าตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลการทำงานได้ แต่อาจไม่คำนึงถึงความซับซ้อนและประเด็นละเอียดอ่อนที่ขับเคลื่อนแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานได้เลย
หนึ่งในปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับการวัดผลทางปริมาณที่โฟกัสเฉพาะผลลัพธ์ คือพนักงานจะถูกประเมินจากผลลัพธ์สุดท้าย ซึ่งไม่สะท้อนถึงความพยายาม การมีส่วนร่วม และยังส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึก ก่อให้เกิดอาการ burnout ของพนักงาน
นอกจากนี้ วิธีการวัดผลทางปริมาณยังสร้างวัฒนธรรมการแข่งขันและการทำงานเป็นรายบุคคลมากกว่าการทำงานเป็นทีม (Teamwork) ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลต่อทีมและผลลัพธ์โดยรวมทั้งหมด
ในทางกลับกัน หากคุณในฐานะผู้นำมีการวัดผลหลายมิติ อย่างการผสมผสานระหว่างตัวชี้วัดทางปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งมุมมองทางการเงิน ลูกค้า การดำเนินงาน และการเรียนรู้ จะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผลักดันตัวพนักงาน ทั้งยังส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
โดยบริษัทระดับโลกอย่าง Google เองก็ให้ความสนใจมากกับการวัดผลหลายมิติ ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพในทุกไตรมาส ด้วยระบบ Quarterly Operational Timeline ด้วยเกณฑ์ What หรือผลงานเชิงปริมาณตัวเลข ยอดขาย รายได้ต่างๆ คิดเป็น 70% และ How หรือความสามารถด้านคน การทำงาน ความเป็นผู้นำอีก 30%
ซึ่งการวัดผลหลายมิติ นอกจากเสริมสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม รักษาความสามารถและ Star ในทีมได้อีกด้วย
หากผู้นำท่านไหน กำลังมองหาเทคนิคเชิงลึกที่จะช่วยรักษา Star เพิ่มอัตรา Retention และลดอัตรา Turn Over ของบริษัท สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่หลักสูตร HR of The Future หลักสูตรใหม่จาก Disrupt ที่จะช่วยปลุกไฟ เสริมความสามารถในการจัดการ การบริหารคนและเปลี่ยนแปลงองค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรม
พบกับเส้นทางอนาคตใหม่ของ HR ได้ใน HR of the Future Batch 2
เริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 1 - 29 มีนาคม 2567 (เรียนทุกวันศุกร์ 9.00-17.00 น.)
สมัครเข้าหลักสูตรคลิก! และ ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมคลิก!
#HROfTheFuture #HROfTheFuturebyDisrupt #Batch1 #Batch2 #HROF1 #HROF2