Ploy Sutinee
Design Director
เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไม App อย่าง Facebook, Instagram,Twitter ถึงทำให้มีผู้ใช้งานติดงอมแงม ได้เป็นพันล้านคนทั่วโลก เราต่างเชคเฟสบุคกันแทบจะตลอดเวลา และทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอน ทานอาหาร ไปจนถึงเข้านอน บางครั้งเราใช้เวลาคุยกันในเฟสบุ๊คมากกว่าเวลาที่ใช้คุยกันจริง ๆ เสียอีก ในขณะที่บาง product แม้จะพยายามทำให้มีประโยชน์กับผู้ใช้ หรือโปรโมทแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้สักที
วันนี้เราจะมาเล่าถึงเทคนิควิธีการ ที่ Facebook ออกแบบขึ้นมา เพื่อใช้ในการดึงดูด เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (habit) ของผู้ใช้ (User) ให้ติดหนึบ หรือ engage กับ Product แบบงอมแงมตลอดเวลา โดย Nir Eyal ผู้ที่เป็นผู้ออกแบบคิดค้นวิธีนี้ขึ้น ซึ่งเรียกว่า “Hooked Model”
Hooked Model คือ การออกแบบ Product ที่ทำให้ User ติดใช้งาน Product เรา และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม จนติดเป็นนิสัย (Habit) แบบขาดไม่ได้ หรือคือพฤติกรรมที่เราทำอะไรไปโดยไม่จำเป็นต้องคิดนั่นเอง
ยกตัวอย่าง Facebook จุดเริ่มต้นนั้นอาจจะมาจากการแก้เบื่อ อยากรู้ อยากอัพเดต หรือ อวดเพื่อน อยากบันเทิง ไม่ใช่ pain อะไรมาก แบบใช้ product นี้ก็ดีนะ สนุกดี (Nice to have) แต่พอใช้ไปใช้มาเริ่มติด จนขาดไม่ได้ มีตัวตน มีภาพ มีความทรงจำเราอยู่ในนี้ หากลบแอพ หรือ Delete Account ไปต้องแย่แน่ ทั้งรูปและเพื่อน ๆ ครอบครัวเราอยู่ในนี้หมดเลย (Must Have)
ดังนั้นหลายๆ Product ไม่ได้เกิดจากการ solve pain ให้ user แต่เขาสามารถเปลี่ยนจาก “มีก็ดีนะ”(Vitamin) ไปเป็น “ขาดไม่ได้” (Pain Killer) ได้
ยกตัวอย่างเรื่อง Attitude Change ปกติบริษัททั่วไป จะใช้โฆษณาในการเปลี่ยนมุมมอง user ต่อ product ของเขา ชนิดที่ว่าอัดโฆษณาให้เห็นบ่อย ๆ ก็จะคุ้นชินไปเอง แต่ product อย่าง Facebook, Twitter นั้น เปลี่ยนมุมมองของ user ผ่านประสบการณ์ในการใช้งาน อีกทั้งถ้า user ชอบ product มาก จะเกิดปรากฏการณ์ viral บอกปากต่อปาก เมื่อ user บอกต่อถี่ทุก ๆ วัน ย่อมทำให้ธุรกิจเติบโตอย่าง exponential growth รวดเร็วมี user หลักพันล้าน
ซึ่งโจทย์แรก ๆ ก่อนที่จะเริ่มสร้างนิสัย หรือเปลี่ยนพฤติกรรม (Habit) ของ User ให้สร้าง Engagement ต่อ Product อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เราต้องตอบได้ก่อนก็คือ
จากนั้นจึงใช้หลักโมเดล Hooked เพื่อสร้างพฤติกรรมของผู้ใช้ ให้เป็นไปตามแบบที่เราต้องการ
Hooked model นั้น มีส่วนประกอบ 4 อย่างด้วยกัน คือ Trigger, Action, Reward และ Investment
เราจะยกตัวอย่างประกอบโมเดล hooked ผ่านแอพพลิเคชั่น Joylada แอพ นิยายแบบแชท ยอดนิยมในหมู่วัยรุ่น
โดยปกติเราจะเห็นนิยายแบบเขียนเป็นเล่มๆ หรือตอนๆ แต่ของ Joylada นั้น จะให้อ่านแบบเหมือนเราไปส่อง chat ของตัวละคร และส่วนนักเขียนก็เขียนในแอพได้เลย เป็นแชทสั้น ๆ ซึ่งง่าย และเหมาะกับพฤติกรรมมิลเลเนียล ที่ชอบคอนเท้นต์ แบบ Bite Size ไม่ต้องมานั่งเขียนนิยายเป็นหน้า ๆ หรือใช้คำเชื่อมให้วุ่นวาย โดยการกดอ่าน 1 chat เรียกว่า 1 Joy
User นักอ่านของ Joylada เป็นวัยรุ่นประมาณ 13 -20 ต้นๆ ซึ่งอยู่ในวัยเรียน เป็นแฟนคลับนักร้องเกาหลี
ในส่วนของนักเขียนเองก็อยู่ในวัยเดียวกัน บางส่วนก็เคยเป็นนักอ่านมาก่อน
- External Trigger
เห็น Post นิยายทาง social คู่ชิปนักร้องที่ตัวเองชอบ
Notification update นิยายที่ตัวเองชอบ
Notification Comment ตอบตัวเอง
- Internal Trigger
รู้สึกเบื่อ อยากหาอะไรฟินสนุก ๆ อ่าน
รู้สึกสงสัย อยากรู้เรื่องต่อ
Tap เพื่ออ่านทีละ chat หรือ กด Save เรื่องที่ชอบ
Hunt - เรื่องราวบทใหม่ๆ หรือ เรื่องอื่นๆ ที่หลากหลาย, ปลดล๊อค/เก็บนิยายเป็นเรื่องๆ
Tribe - comment ร่วมกับผู้อ่านคนอื่นๆ และรีวิว
เวลาที่ใช้ไปกับการอ่าน , เติมเงิน , Save เก็บเป็นคลังนิยาย
เมื่ออ่านนิยายผ่าน Joylada ก็เริ่มติดนิยายเพราะสนุก โอกาสที่จะเกิด Trigger ให้กลับมาใช้ต่อก็สูงมาก ถ้าเกิดความอยากรู้เรื่องต่อ หรือเห็น notification อัพเดต หรือมีเรื่องสนุกใหม่ ๆ ให้อ่านมากขึ้นเรื่อย ๆ
จึงเกิดความถี่ในการกลับมาใช้ ดังนั้นในการที่ platform มีนิยายหลากหลาย ก็ช่วยเพิ่มความถี่ เหมือน Netflix ที่มีหนังให้ดูมากมาย เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนใช้เวลาบน netflix เพิ่มขึ้น
นักเขียนเองก็มีวัยไล่เลี่ยกับนักอ่าน ส่วนใหญ่สนใจเรื่องนักร้องเกาหลีเหมือนกัน และโดยปกติจะเคยเขียนนิยาย ลงเวปมาก่อน เมื่อมาใช้ Joylada ก็จะสร้างตัวละคร เขียนเป็น chat ใส่ภาพ และติดราคาในตอนได้
- External Trigger
เห็นกระแส Joylada จากคนอ่าน ทาง social media
Notification comment จากคนอ่าน
- Internal Trigger
ความอยากรู้ feedback จากคนอ่าน
อยากรู้ยอด Joy, bookmarked
อยากดูรายได้จากนิยาย
ผูก account เขียนบทใหม่ เพิ่มตัวละคร และแต่ง profile เพิ่มบท เขียนเป็น chat และใส่รูปประกอบ ตั้งให้เก็บตังค์ และ publish โดยทั้งหมดนี้ทำได้ง่าย ๆ ในมือถือ
นักเขียนได้ reward ทุกด้าน
-Tribe : ความรู้สึกได้การยอมรับ เป็นคนดัง เป็นคนสำคัญ ได้รับ feedback, การยอมรับจากผู้อ่าน ทั้งจากยอด Joy และ ยอดคอมเม้นต์
-Hunt ความต้องการล่า : ล่าคะแนนรีวิว อันดับ
-Self Achievement : ความภูมิใจ ความสำเร็จจากเงินที่ได้ และแฟนคลับนักอ่าน
ลงทุนเวลากับแรงสมองในการแต่งนิยาย สร้างนิยายเป็นของตัวเองใน Joylada
สำหรับนักเขียน การได้ยอดวิว แฟนคลับ รวมไปถึง comment และ feedback ในการอ่านนั้น สำคัญมาก เพราะนี่เป็น internal trigger ที่จะทำให้กลับมาดู และเกิดแรงใจเขียนนิยายต่อ ยิ่งถ้าได้ reward เป็นเงิน/ยอด joy มากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้เกิด habit ได้ดีขึ้น
จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนนิสัยของผู้ใช้ โดยปกติแล้วเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก แต่หากเราเข้าใจพฤติกรรม User อย่างลึกซึ้ง และนำโมเดล Hooked นี้มาออกแบบปรับใช้
ก็จะทำให้ User ใช้ product ของเราบ่อยขึ้น จนเปลี่นนนิสัย และเปลี่ยนมุมมองในการใช้งาน จาก แอพพลิเคชั่นที่เป็นแค่ Vitamin ที่แค่มีก็ดีนะ เป็น Pain Killer หรือแอพที่ User ขาดไม่ได้ จึงยากที่ User จะเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกอื่น ทำให้ product ของเราดึงดูดและเติบโตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น