In-House Training สำคัญอย่างไร? เพราะอะไรองค์กรจึงต้องทำ!
หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับ Training หรือการฝึกอบรมดีอยู่แล้ว ว่าคือการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ทั้งด้านทักษะ ความรู้ให้ตอบโจทย์กับงานของพนักงานแต่ละคน
ซึ่ง In-House Training เองจะหมายถึงการฝึกอบรมที่พัฒนาโดยองค์กร โดยในแต่ปี HR หรือฝ่ายพัฒนาบุคลากรจะมีการทำแผนการพัฒนาบุคคลเพื่อให้ตอบสนองต่อเป้าหมายขององค์กรในปีนั้นๆ ส่วนใหญ่จะมีเป้าประสงค์ให้พนักงานได้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจและกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ทางองค์กรจัดสรรให้
Highlight
In-House Training มีลักษณะและประโยชน์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น
- การออกแบบหลักสูตรอบรม In-House Training สามารถออกแบบให้ตอบโจทย์เป้าหมาย หรือปัญหาขององค์กรได้
- เป็นช่องทางการพัฒนาเพิ่มทักษะความรู้ที่จำเป็นให้แก่พนักงานคนสำคัญ
- หนึ่งวิธีในการเตรียมพร้อมผู้นำขององค์กรสำหรับความรับผิดชอบหน้าในอนาคต
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระหว่างฝ่าย และแผนก เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
การฝึกอบรมพนักงานภายใน (In-house training) คือ การที่องค์กรจัดสรรการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรในองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาพนักงานให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ โดยการอบรมพนักงานอาจจะประกอบไปด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม Team Building ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น หรือกิจกรรมประเภทเวิคชอปที่ทำให้สามารถนำองค์กรความรู้ที่ได้รับจาหการอบรมพนักงานมาลองทำจริง และมีการระดมสมองระหว่างทีม เพื่อให้เกิดแนวความคิด หรือไอเดียใหม่ๆ
ข้อดีของการทำ In-House Training มีมากมาย เช่น
- ช่วยทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย: เป็นโอกาสให้องค์กรได้ออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและปัญหาขององค์กรผ่านการพัฒนาพนักงาน
- พัฒนาความรู้และศักยภาพของบุคลากร: ส่งเสริมให้พนักงานได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และศักยภาพที่ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: เมื่อมีการอบรมบุคลากรจำนวนมาก หรือมีหลายๆแผนกมารวมกัน กิจกรรมใน In-House Training จะช่วยให้คนที่เข้าร่วมได้ลองแก้ปัญหา ทำภารกิจ และบรรลุเป้าหมายซึ่งเป็นผลดีกับความสัมพันธ์ และสร้างทักษะการสื่อสารที่ดีระหว่างบุคคลอีกด้วย
- สามารถออกแบบได้ตรงโจทย์: ให้แต่ละแผนก อาจมีความท้าทายและปัญหาที่แตกต่างกัน การทำ In-House Training จะช่วยให้สามารถออกแบบวิธีการอบรมเพิ่มทักษะที่มาแก้ไขปัญหานั้นได้เฉพาะเจาะจงหรือสร้าง Customized Solutions ได้ดียิ่งขึ้น เช่น มีปัญหาด้านการเพิ่มยอดขาย ก็สามารถเจาะจงลงไปที่ต้นตอเพื่อออกแบบการฝึกอบรมที่ช่วยได้ อย่างการพัฒนาทักษะการขาย หรือทักษะการสร้างระบบการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นั่นเอง
ช่วยเพิ่มทักษะการสื่อสาร: แน่นอนว่าระหว่างการอบรมพนักงาน ผู้เข้าร่วมจะได้มีโอกาสพัฒนากระบวนการทำงานระหว่างกัน และพัฒนาทักษะการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี การทำ In-House Training ก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวัง ดังนี้
- ระดับของความรู้และทักษะของผู้เข้าร่วมที่ไม่เท่ากัน: แน่นอนว่าการอบรมพนักงานนับเป็นเรื่องที่ดี และช่วยส่งเสริมทักษะให้แก่พวกเขาได้ แต่ถ้าเริ่มด้วยความรู้ความสามารถของพนักงานที่แตกต่างกันมากเกินไป อาจทำให้การฝึกอบรมนั้นได้ประสิทธิภาพไม่เท่าที่ควร ดังนั้นการคำนึงถึงคุณภาพและระดับความรู้ของผู้อบรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
- ความร่วมมือของทุกภาคส่วน: เป็นไปได้ว่าบางครั้งผู้บริหารหรือพนักงานหลายๆแผนก อาจจะยุ่งง่วนอยู่กับการประชุม และงานที่ต้องสะสางของตน ซึ่งอาจทำให้การจัด In-House Training เป็นความท้าทาย เช่น การหาไทม์ไลน์หรือช่วงเวลาในการจัดฝึกอบรมที่เหมาะสม การขอความร่วมมือให้เข้าร่วมฝึกอบรม โดยไม่ออกไปทำงานระหว่างการฝึกอบรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกัน และให้ความสำคัญเมื่อถึงเวลาจัดอบรม
- การสื่อสารวัตถุปประสงค์ไม่ชัดเจน: เป็นไปได้ว่าการฝึกอบรมที่จัดขึ้น จะถูกจัดด้วยหลากหลายวัตถุประสงค์ (Objective) ไม่ว่าจะเป็น การสร้างสัมพันธ์ผ่าน Team Building การเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ หรือการทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ขององค์กรผ่านผู้บริหาร ดังนั้นการสื่อสารก่อนการฝึกอบรมจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากทำได้ไม่ชัดเจน อาจทำให้ผู้เข้าร่วมสับสน และรู้สึกไม่อยากเข้าฝึกอบรมเพราะไม่ตรงความคาดหวังก็เป็นได้
- In-House Training รูปแบบหลักสูตร (ระยะสั้น) คือ หลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาการอบรมตั้งแต่ 1- 3 วัน (ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของหลักสูตร) เป็นการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ในระยะสั้น โดยเน้นไปที่การให้ความรู้พื้นฐาน หรือเน้นทักษะความรู้ที่จำเป็นและเร่งด่วน โดยจะมีความเข้มข้น (Intensive) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้งานต่อในหน้างานของตนเองได้ง่าย
โดยทาง Disrupt Techonology Venture มีการทำคอร์สระยะสั้นสำหรับผู้บริหาร เช่น คอร์ส หลักสูตร Manager of the Future หลักสูตรสำหรับการพัฒนาผู้จัดการ หรือหลักสูตรสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาทักษะเฉพาะ เช่น การวิเคราะห์ Data, การพัฒนาทักษะการขาย, การใช้ Generative AI
- In-House Training รูปแบบโปรแกรม (ระยะยาว) คือ หลักสูตรที่ใช้ระยะเวลาการอบรมตั้งแต่ 1 – 12 เดือน (ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของโปรแกรม) โดยจะเน้นไปที่การให้ความรู้ และทักษะเชิงลึก หรือเป็นกลุ่มของทักษะและความรู้ (Capabalities) ของกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงโดยมุ่งเน้นไปที่ความต่อเนื่อง ของการเตรียมความพร้อม และการนำทักษะและความรู้ที่ใช้จริงไปใช้และกลับมาฟีดแบคระหว่างหลักสูตร เช่น โปรแกรมเตรียม Talent เป็น Manager หรือโปรแกรมเตรียมพร้อมผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น
หลักสูตรที่ช่วยให้ผู้บริหารเติบโตแบบก้าวกระโดดระยะยาว 13 สัปดาห์ ที่ Disrupt ทำเช่น หลักสูตร Chief Exponential Officer ที่ช่วยเสริมทักษะให้แก่ผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจ ที่สนใจเรื่อง Transformation
Corporate In-House Training เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่องค์กรนิยมในการจัด In-House Training เพราะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่องค์กร ในการจัดการฝึกอบรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
เริ่มตั้งแต่การ
- ช่วยตีโจทย์ขององค์กร: Corporate In-House Training จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถช่วยตั้งคำถามกับทีมบริหารทรัพยากรมนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจประเด็นปัญหา และเป้าหมายของการฝึกอบรมได้เป็นอย่างดี
- ประสานงานกับเครือข่ายผู้สอน และวิทยากรมากประสบการณ์: ช่วยประสานงานให้ครบจบตรงตามเป้าหมาย มีการรวบรวมโปรไฟล์วิทยากรที่หลากหลายและการประสานงานเรื่องรูปแบบการเรียนรู้และเนื้อหากับวิทยากรจนจบโปรแกรมอบรม ทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานกับ HR
- อำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับผู้เข้าร่วม: Corporate In-House Training สามารถช่วยออกแบบแผนและสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมได้ ทั้งนี้เพื่อลดข้อจำกัดของการสื่อสารที่ผิดพลาด และช่วยเตือนผู้เข้าร่วมถึงรายละเอียดการฝึกอบรม
- ออกแบบหลักสูตรเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด: จากที่ HR จะต้องออกแบบโครงสร้างการอบรมเอง ทาง Corporate In-House Training สามารถดึงเอาความรู้และประสบการณ์จากการจัดอบรมให้องค์กรต่างๆมาออกแบบหลักสูตรอบรมที่ตอบโจทย์ และปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งได้ เช่น การเน้นการทำกิจกรรมแบบสนุกมีสาระ เน้นการเรียนแบบเข้มข้นเน้นเนื้อหา และการวิเคราะห์ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
- มีการติดตามผลการเรียนรู้และระบบทำรายงาน: Corporate In-House บางเจ้ามีการ offer ติดตามผลการเรียนรู้ และเปรียบเทียบผลสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เพื่อนำมาสรุปประสิทธิผลของการฝึกอบรมให้กับทางองค์กร และดูแนวโน้มการพัฒนาคนในอนาคตได้อีกด้วย
- ช่วยประหยัดทรัพยากรขององค์กร: สามารถช่วยประหยัด คน เวลา และต้นทุน ในการฝึกอบรมได้เป็นอย่างดี โดยจะมีทีมงานที่พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดอบรมอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ช่วยลดต้นทุน ด้านกำลังคน และเวลาที่ต้องใช้ไปกับการจัดการรายละเอียดและประสานงานการอบรม
ทั้งนี้การเลือกใช้ช่องทางการฝึกอบรมจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความพร้อมขององค์กร มีหลากหลายองค์กรทำแบบผสมผสานกัน คือทั้งจัดการฝึกอบรมเอง และจ้าง Corporate In-House Training มาช่วยบริหารจัดการการฝึกอบรบที่องค์กรไม่ถนัด หรือไม่ใช่จุดแข็งของทีม ก็จะสามารถทำให้การจัดอบรมบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรได้
อยากเริ่มทำ In-House Training คุณภาพเริ่มต้นได้จากการทำสิ่งเหล่านี้
- ทำการประเมินความพร้อมและความต้องการของพนักงาน: แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การจัดอบรมเลยคือ ความหมายของการจัดอบรม ว่าการฝึกอบรมนี้มีเพื่ออะไร และทำเพื่อใคร ผู้ที่จัดจึงต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการ และปัญหาของกลุ่มเป้าหมายเสียก่อน ก่อนจะเริ่มการจัด In-House Training
- ร้อยเรียงความรู้ ทักษะ: จากนั้นต้องลองร่างหลักสูตรการฝึกอบรม เช่น หัวข้อ รูปแบบการเรียนรู้ วันเวลา และผู้สอน รวมถึงประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมอบรมว่าหน้าจะออกมาเป็นอย่างไร หากได้มีแผนแล้วการลงมือประสานงานให้เป็นไปตามแผนจะง่ายมากขึ้น
- การใส่ใจกับผลลัพธ์: มากกว่าการจัด In-House Training ขึ้นมา คือการติดตามคุณภาพผ่านผลลัพธ์ของผู้เรียน โดยตัววัดที่ดีคือ สิ่งที่ช่วยสะท้อนว่าองค์กรจะเปลี่ยนแปลงไปตามเป้าหมายมากน้อยแค่นั้น เช่นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากการฝึกอบรม เป็นต้น
In-House Training เป็นอีกหนทางที่ช่วยเพิ่มพูนศักยภาพของคนในองค์กร ท่ามกลางความท้าทายของโลกยุค AI Disruption ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ผู้จัดการฝึกอบรมจึงต้องทำความเข้าใจกระบวนการและประโยชน์ของการทำการฝึกอบรมในช่วงหนึ่งๆ
Disrupt Corporate Program เป็นหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่สนใจการทำ Corporate In-House Training ที่อยากได้ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและประสานงานเพื่อการจัดอบรมคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์หน้างานของผู้เรียน และราคาคุ้มค่า ด้วยประสบการณ์ของ Disrupt Corporate Program มากกว่า 12 ปี กับลูกค้าองค์กรมากกว่า 150 องค์กรทั่วประเทศไทย
สนใจสามารถติดต่อได้ที่ https://www.disruptignite.com/corporateprogram