Resilience ทักษะสำคัญในการทำงานยุคใหม่ที่ต้อง Survival
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Resilience คือทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน แต่ Resilience คืออะไรกันแน่? เรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า!
Resilience หากแปลเป็นภาษาไทยจะหมายถึง ความสามารถในการฟื้นคืนสู่ปกติ กล่าวคือความสามารถในการปรับตัว ฟื้นตัว และเติบโตจากความท้าทายและอุปสรรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตส่วนตัวหรือชีวิตการทำงาน ผู้ที่มี Resilience จะมองเห็นโอกาสในวิกฤต และสามารถก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากได้อย่างมั่นคง
Highlight
- Resilience คือ ความสามารถในการปรับตัว ฟื้นตัว และเติบโตจากความท้าทายในการทำงานและชีวิต
- Resilience ประกอบด้วย การยอมรับความจริง การวิเคราะห์ปัญหา และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- Resilience Skill ประกอบด้วย การตั้งเป้าหมาย การมี Growth Mindset การรู้จักตนเอง และการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
- Resilience Mindset ช่วยให้มองความท้าทายเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
- การพัฒนา Resilience ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความสามารถในการปรับตัว และคุณภาพชีวิต
- Resilience ไม่ใช่การไม่มีความรู้สึกหรือไม่เคยล้มเหลว แต่เป็นความสามารถในการฟื้นตัวและเรียนรู้
- Resilience สำคัญสำหรับทุกคนในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในการทำงานยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง
Resilience คือความสามารถในการฟื้นตัวและปรับตัวเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก ความเครียด หรือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน “resiliens” ซึ่งเป็นรูปหนึ่งของคำว่า “resilire” ที่แปลว่า “กระเด้งกลับ” หรือ “ดีดตัวกลับ” ประกอบด้วย “re-” แปลว่า “กลับ” และ “salire” แปลว่า “กระโดด” สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการ “กระโดดกลับ” หลังจากเผชิญกับอุปสรรค
Resilience คือ ความยืดหยุ่นทางจิตใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายและก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่มี Resilience Mindset ก็มักจะมี Growth Mindset ด้วย คือมองว่าความสามารถและปัญญาสามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้ แนวคิด Resilience จึงไม่ใช่แค่การทนต่อความยากลำบาก แต่ยังรวมถึงการเติบโตและพัฒนาตนเองจากประสบการณ์เหล่านั้น
Resilience มีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อชีวิตส่วนตัวและการทำงานในองค์กร แนวคิด Resilience ช่วยให้บุคคลและองค์กรสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Resilience มีประโยชน์ดังนี้ :
- เพิ่มความสามารถในการปรับตัว: ผู้ที่มี Resilience mindset จะสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ดี ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุค Digital Transformation
- เสริมสร้างสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง: Resilience ช่วยให้บุคคลสามารถรับมือกับความเครียดและความกดดันได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
- ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนา: แนวคิด Resilience สนับสนุนให้มองความท้าทายเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ทำให้เกิดการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: Resilience skill ช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับปัญหาและอุปสรรคได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลงานมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ส่งเสริมนวัตกรรม: Resilience กระตุ้นให้เกิดการคิดนอกกรอบและการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นรากฐานของนวัตกรรม
- พัฒนาภาวะผู้นำ: ผู้นำที่มี Resilience จะสามารถนำทีมผ่านช่วงเวลายากลำบากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้าง Resilience ในองค์กรจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต ทั้งนี้ Resilience มีอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับบริบทขององค์กร แต่โดยทั่วไปจะประกอบด้วยทักษะการปรับตัว การแก้ปัญหา และการจัดการความเครียด ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญในการทำงานยุคใหม่
แนวคิด Resilience ประกอบไปด้วยหลายลักษณะที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจและความสามารถในการรับมือกับปัญหา โดยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
การยอมรับความเป็นจริง
การยอมรับความเป็นจริงเป็นจุดเริ่มต้นของ Resilience Mindset กล่าวคือ ผู้ที่มี Resilience จะสามารถมองสถานการณ์ตามความเป็นจริง โดยไม่ปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงปัญหา ซึ่งจะช่วยให้
- เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
- ลดความเครียดจากการพยายามควบคุมสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
- เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น
Resilience Skill ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือความสามารถในการวิเคราะห์และทบทวนปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้
- มองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
- วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างรอบด้าน
- ใช้แนวคิด Design Thinking ในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
การพัฒนาและปรับปรุง
การพัฒนาและปรับปรุงเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Resilience ที่ช่วยให้เติบโตและก้าวหน้าจากประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วย
- การมี Growth Mindset ที่เชื่อว่าความสามารถและทักษะสามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้
- การเรียนรู้จากความผิดพลาดและมองว่าทุกประสบการณ์คือโอกาสในการเติบโต
- การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
Resilience คือทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายและฟื้นตัวจากอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนา Resilience Skill ไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีแนวคิดที่ถูกต้องและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ มาดูกันเลยว่าเราจะพัฒนา Resilience Skill ได้ยังไงบ้าง
Set Goals ตั้งเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนา Resilience การมีจุดหมายที่ชัด จะช่วยให้เรามุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมายนั้น แม้จะเจออุปสรรคก็ตาม การตั้งเป้าหมายช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนในการพัฒนาตนเอง คอยสร้างแรงจูงใจในการเอาชนะความท้าทายหรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่พบเจอระหว่างทาง
Growth Mindset คนเราพัฒนาได้ผ่านการเรียนรู้
Growth Mindset นั้นเป็นรากฐานสำคัญของ Resilience ซึ่งเริ่มต้นด้วยการมีแนวคิดที่เชื่อว่าความสามารถและทักษะสามารถพัฒนาได้ผ่านความพยายามและการเรียนรู้ โดยมองความท้าทายหรือปัญหาต่าง ๆ เป็นโอกาสในการเติบโตขึ้นอีกก้าว และไม่เกรงกลัวต่อความล้มเหลว โดยมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้เพื่อเติบโตนั่นเอง
Self-Awareness & Self-Esteem เข้าใจและเคารพตัวเอง
การรู้จักและเห็นคุณค่าในตนเองเป็น Resilience Skill สำคัญ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง เพื่อให้มีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย รู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย และช่วยให้เราสามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียดได้ดีขึ้น
Human Relations พัฒนาทักษะการเข้าสังคม
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นช่วยเสริมสร้าง Resilience โดยการสร้างเครือข่ายสนับสนุนกันในทุก ๆ สถานการณ์ พัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น และยังช่วยให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์และมุมมองของคนรอบข้าง และเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง
Develop Yourself พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นหัวใจสำคัญของ Resilience ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอช่วยเสริมสร้าง Resilience Skill ให้แข็งแกร่ง ทำให้เราพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ Disrupt Corporate Training Program นำเสนอวิธีการพัฒนาตนเองที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเสริมสร้างทักษะสำคัญสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบันผ่านแนวทางที่ครอบคลุมและตอบโจทย์องค์กรสมัยใหม่
การลงทุนในการพัฒนาตนเองไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้าง Resilience แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเติบโตทางอาชีพ ช่วยให้บุคลากรและองค์กรพร้อมรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะเข้ามา และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันผ่านการพัฒนาทักษะที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง การมี Resilience ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ทั้งตัวเราและองค์กรสามารถปรับตัว เติบโต และประสบความสำเร็จในโลกาภิวัฒน์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีได้
Problem-Solving พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา
ทักษะการแก้ปัญหาเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Resilience ที่ช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะนี้ช่วยให้เรามองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต สอดคล้องกับ Growth Mindset โดยมองปัญหาจากหลายมุมมอง และพยายามคิดถึงทางออกใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนา Resilience Skill อื่น ๆ เช่น การตัดสินใจ การจัดการความเครียด และการปรับตัว ทำให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในการทำงานและชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น
Resilience มักถูกเข้าใจผิดในหลายในหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งเราก็ได้ลิสต์ความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อย ๆ ดังนี้
- Resilience หมายถึงการไม่มีวันรู้สึกอ่อนแอหรือเจ็บปวด
ความจริงแล้วคนที่มี Resilience ก็สามารถรู้สึกอ่อนแอ เจ็บปวด เศร้าโศก หรือโกรธ ได้เช่นเดียวกับคนทั่วไป สิ่งสำคัญคือ การรับมือกับอารมณ์ จัดการกับปัญหา และสามารถลุกขึ้นมาใหม่ต่างหากที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการมี Resilience Skill
- Resilience เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิด
ความจริงแล้ว Resilience เป็นทักษะที่สามารถ ฝึกฝน พัฒนา และ เรียนรู้ ได้ ทุกคนสามารถพัฒนาทักษะ Resilience ให้แข็งแกร่งขึ้น ผ่าน ประสบการณ์ การฝึกฝน และ การเรียนรู้
- Resilience หมายถึงการไม่เคยล้มเหลว
ความจริงแล้ว การล้มเหลว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คนที่มี Resilience และ Growth Mindset จะถือว่า ความล้มเหลวเป็นบทเรียน โอกาสในการเรียนรู้ และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความสำเร็จ
- Resilience หมายถึงการเข้มแข็งและอดทน
ความจริงแล้ว Resilience มากกว่าแค่ ความเข้มแข็ง ความอดทน หรือ การอดกลั้น คนที่มี Resilience จะยืดหยุ่น ปรับตัว มองหาแง่ดี และเรียนรู้จากประสบการณ์
- Resilience จำเป็นสำหรับบางคนเท่านั้น
ความจริงแล้ว Resilience สำคัญสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกสถานการณ์ และทุกช่วงเวลาของชีวิต
การเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Resilience อาจทำให้
- รู้สึกท้อแท้
- ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทาย
- เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
- มองข้ามโอกาสในการเรียนรู้
- รู้สึกไร้ค่า
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ เข้าใจ Resilience อย่างถูกต้อง เปิดใจเรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนา และ เสริมสร้าง ทักษะ Resilience ให้แข็งแกร่ง เพื่อรับมือกับทุกอุปสรรค ก้าวสู่ความสำเร็จ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แนวคิด Resilience ไม่ได้หมายถึงการไม่มีความรู้สึกหรือไม่เคยล้มเหลว แต่หมายถึงการมี Resilience Mindset ที่พร้อมเรียนรู้ ปรับตัว และลุกขึ้นสู้ใหม่เสมอ การสร้าง Resilience เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทุกช่วงชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา Resilience ของพนักงานจะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน นี่คือเหตุผลที่ Disrupt Corporate Program ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้าง Resilience ในองค์กรโดยเฉพาะ โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะสำคัญ แต่ยังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงาน ผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจ การลงทุนในการพัฒนา Resilience คือการลงทุนในอนาคตที่มั่นคงและความสำเร็จที่ยั่งยืน เริ่มต้นวันนี้ด้วยการทำความเข้าใจ ฝึกฝน และพัฒนา Resilience ของคุณและทีม เพื่อพร้อมรับทุกความท้าทายและโอกาสที่รออยู่ข้างหน้า
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Email: all@disruptignite.com
Facebook >> Disrupt Technology Venture
LINE ID: @disruptignite