Pat Thitipattakul
Corporate Innovation Manager
ในงาน RISE Conference ที่ฮ่องกง ได้มีการเชิญนักลงทุน VC มาจากหลากหลายประเทศทั้งในเอเชียและต่างทวีป มาพูดคุยในเรื่องของการลงทุน เทรนด์สตาร์ทอัพแต่ละประเทศ กฎระเบียบของรัฐบาล และเทคโนโลยียุคใหม่ที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง โดย VC แต่ละท่านได้แชร์มุมมองและประสบการณ์ของตัวเอง
แน่นอนว่าจีนเป็นประเทศที่กำลังมาแรงมากในเรื่องของเทคโนโลยี AI และเรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของเอเชียที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก จึงมีการกล่าวถึงเทรนด์เทคโนโลยีในจีนค่อนข้างมาก รวมถึงความคาดหวังของ VC ที่ลงทุนในจีนและเอเชียเป็นหลัก ทางทีมงาน Disrupt ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจโดยรวมจากในงานมาดังต่อไปนี้
5G ไม่ได้มีความหมายแค่ว่าอินเตอร์เน็ตที่เร็วขึ้นและเสถียรขึ้น แต่ยังนำไปสู่ความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่อ device และ machine ไม่จำกัดจำนวน นึกภาพว่าเครื่องมือ IoT นับล้านเครื่องส่งต่อข้อมูลกันได้แบบ real-time ซึ่งหากนำข้อมูลนี้มาประมวลผลด้วย AI แล้ว จะเปิดโอกาสการสร้างเทคโนโลยี disruptive ได้อีกมากมาย ซึ่งในจีนเองได้มีการสร้าง infrastructure มารองรับ วางแผนเริ่มต้นใช้ 5G ในบางพื้นที่ภายในปี 2020 นี้แล้ว
สำหรับเทคโนโลยี AI เอง มีหลักการว่ายิ่งมีการเทรนมาก AI ยิ่งฉลาดมากขึ้น จุดนี้เองที่จีนได้เปรียบเหนือประเทศอื่นเพราะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมาก ประเทศใหญ่ ประชากรเยอะกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว ทำให้ AI จีนได้ข้อมูลมาเทรนเยอะ เมื่อสามารถใช้ 5G ได้แล้ว AI ยิ่งเก็บข้อมูลได้เยอะยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ปัจจุบันในประเทศจีนได้มีการใช้ AI มาทำหลายอย่างมากทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน เช่น การสแกนหน้าตรวจหาผู้ร้าย การสแกนตรวจจับผู้ทำผิดกฎจราจร การปรับไฟจราจรตามจำนวนรถบนท้องถนน การสแกนหน้าเพื่อชำระเงิน การสแกนหน้าเพื่อเช็คอินเข้าโรงแรม การทำ personalization แบบ online และ offline
ตัวอย่างสิ่งที่ 5G + AI สามารถทำได้
นักลงทุนในจีนยังมองว่า Enterprise SaaS, AI, Big data, Cloud computing ยังเป็นที่ต้องการของตลาด B2B องค์กรจำนวนมากต้องการใช้เทคโนโลยีพวกนี้แต่ขาด resource ที่จะมาพัฒนาเอง การใช้ solution ของ startup ที่มีศักยภาพจึงตอบโจทย์องค์กร อีกทั้งยังมีเทรนด์เรื่องการใช้ data มาเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและพัฒนาองค์กร บริษัทต่าง ๆ จึงยิ่งให้ความสำคัญในเรื่องนี้
ตลาด consumer จีนมีขนาดใหญ่มาก นักลงทุนจีนจึงไม่มองข้ามแม้ว่าตลาดนี้จะโตช้าลงในช่วงที่ผ่านมา ในเมื่อคนจีนจำนวนมากเข้าถึงโทรศัพท์มือถือและ smart device แล้ว คำถามต่อไปคือ มีอะไรอีกบ้างที่ผู้ใช้สามารถทำได้บน device เหล่านี้ ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้น เชื่อมต่อข้อมูลให้ครอบคลุมส่วนอื่น ๆ ของชีวิตประจำวัน เชื่อมต่อไปยัง Smart home IoT และ Health IoT
Super app คือแอพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการหลายอย่างของผู้ใช้ มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ หากพูดถึงในประเทศไทยก็อย่างเช่น LINE ที่ไม่ได้มีไว้แค่แชทเท่านั้น แต่สามารถใช้จ่ายเงิน ใช้จองตั๋วหนัง ใช้เรียกแท็กซี่ ใช้สั่งอาหารได้ เป็นต้น
3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็น Super App จากจีน Baidu Alibaba Tencent เองก็ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำ product หลากหลายครอบคลุมหลาย industry นอกเหนือไปจาก product หลักของตัวเอง รวมถึงลงทุนใน startup ทั้งในจีนและต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มี synergy กับธุรกิจ เพื่อยึดครองและขยายตลาดต่อไป กล่าวได้ว่าเป็นโอกาสอันดีของ startup ที่ตอบโจทย์ Super App ใหญ่ ๆ ที่มีโอกาสที่จะได้ร่วมมือหรือรับเงินลงทุน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีในจีนได้ที่ http://www.scmp.com/china-internet-report