พลิกมุมมองการศึกษาแห่งโลกอนาคตที่ไม่แน่นอน

December 23, 2020
Noon Ananya

Disruption คำที่พบเห็นกันจนชินตา โดยเฉพาะในช่วงปี 2020 นี้ ยกตัวอย่างเช่น จะเห็นได้ว่าทั้งร้านอาหารและร้านค้าทั่วไปต่างถูกแทนที่ด้วย Platform Delivery พนักงานรับส่งอาหารกลับกลายเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นคำพูดที่เราคุ้นชินกันว่า “ตกงาน ไปขับ grab” ซึ่งส่งผลให้ยอดการใช้งานของ platform เหล่านี้ เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้คน และร้านอาหาร ต่างมีความจำเป็นต้องใช้บริการเหล่านี้ในช่วง quarantine ที่ผ่านมา

ทุกคนอาจคาดหวังว่าเทรนด์ที่น่าสนใจนี้ อาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจและยั่งยืนสำหรับอนาคต แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ณ ปัจจุบันนี้ ได้มีการเปิดตัวโดรนที่ใช้รับส่งของ การขนส่งที่ไม่ต้องกังวลถึงการจารจรที่ติดขัด หรือปริมาณของผู้ขับรถรับส่งที่ขาดแคลนในปัจจุบัน คำถามที่เกิดขึ้นมาในใจของพวกเราคือ เป็นไปได้หรือไม่ ว่า “ตกงาน ไปขับ grab” กำลังจะถูก disrupt อีกครั้ง

นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่ฉายภาพให้เห็นถึงเหตุการณ์ในอนาคต ปี 2020 เป็นจุดหักเปลี่ยนของอะไรหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนกระทั่งตอนนี้ แต่นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคต โลกยังจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมาก Digital Disruption จะเป็นเพียงแค่จุดเล็กน้อยเท่านั้น

คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา CEO จาก TCP Group ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองของโลกที่เปลี่ยนในงาน Education Disruption Conference 2 ไว้ว่า นอกเหนือจาก Digital Disruption นั้น ตอนนี้เราได้เห็นถึงสัญญาณเตือนภัยจาก disruption อื่น ๆ ที่กำลังจะตามมา อาทิเช่น

Social Media Disruption

ลูกหลานของเรากำลังจะเกิดมาในโลกคู่ขนานที่ประกอบไปด้วยโลกของความเป็นจริง และโลกเสมือน หรือเรียกอีกอย่างว่า โลก social media จากจุดเริ่มต้นของการเป็นช่องทางในการสื่อสาร การแลกเปลี่ยนเรื่องราว ประสบการณ์ต่าง ๆ กันภายในหมู่เพื่อนฝูงและคนรู้จัก จนกระทั่งเริ่มต้นเป็นช่องทางการกระจายข่าวสาร และการสื่อสารกันในระดับวงกว้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นนวัตกรรมทางสังคมที่ทำให้คนก้าวเข้าสู้ยุคของ information age อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มแรก ไม่ได้มีใครคาดการณ์ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับการใช้ social media นี้ การแบ่งปันเรื่องราว ทำให้เรามีความต้านทานต่อกระแสสังคมที่น้อยลง และเกิดการเปรียบเทียบข้อด้อยข้อเสียที่ไม่อาจควบคุมได้ระหว่างเรากับ เพื่อนฝูง สังคม และ ประชากรที่อาจจะอยู่ในอีกขั้วมุมโลก

หรือการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วจนน่าใจหาย ทำให้การกลั่นกรองของข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จก็ได้ลดลงน้อยลงมาด้วย ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งส่งผลกระทบกับพฤติกรรมที่แสดงออกมาตามสื่อที่เราได้เห็นไม่เหมือน ซึ่งสิ่งนี้ เป็นการสร้างกระแส และการเปลี่ยนความคิด ค่านิยมของคนในสังคมอย่างช้า ๆ

ซึ่งในบางที การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันตามสื่อที่เห็น ก็ได้ส่งผลให้เราต่างมีความเชื่อที่แตกต่าง ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่สังคมจะเกิดความขัดแย้ง จากปัญหาการกลั่นกรองข้อมูลในด้านเดียวอย่างต่อเนื่อง และอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคม

Climate Disruption

ตั้งแต่มีมนุษยชาติเกิดขึ้น โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จน ณ ปัจจุบันเราได้เห็นถึงสัญญาณเตือนภัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น

...ไฟป่า ที่ยากเกิดกว่าจะควบคุมได้ ส่งผลให้สัตว์และความหลากหลายทางพันธุกรรมหลาย ๆ อย่างได้สูญหายไป
...ฝุ่นมลภาวะ ที่อาจะทำให้มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ภายนอกอาคารได้
...ปัญหาน้ำแข็งละลาย และน้ำท่วมในขั้วโลก ที่ส่งผลต่อสภาพอากาศและเกษตรกรรม

หากมองย้อนกลับไปถึงต้นเหตุ เราล้วนพบว่า ปัญหานั้นเกิดมาจากการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างเห็นแก่ตัวของมนุษย์ในหลายศตวรรตที่ผ่านมา จนกระทั่งในวันนี้ โลกได้ทำการประท้วง และส่งสัญญาณเตือนภัยแก่เรา

ถึงแม้ว่าปัญหา Covid-19 อาจจะดูเหมือนเป็นปัญหาที่ใหญ่ในปีนี้ แต่ปัญหาที่พ่วงตามมาก็คือการใช้พลาสติกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้านค้าปฏิเสธการใช้ภาชนะที่ลูกค้านำมาด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องห่อหุ้มด้วยพลาสติกเพื่อสุขอนามัยที่ดี นี่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เร่งให้โลกของเราช้ำจากการกระทำของมนุษย์

ในโลกอนาคตที่อาจน่าอยู่น้อยลงจากเหตุการณ์ดังกล่าว มนุษย์กลับมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และอาจมากถึง 100 กว่าปีในโลกอนาคต เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์และทางชีวโมเลกุลที่ล้ำสมัย เราจึงต้องปรับตัวกันอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ของพฤติกรรม และ โครงสร้างมหภาคทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยสองสิ่งที่จะทำให้เราสามารถอยู่รอดได้นั้น ได้แก่..

#1 Life-long Learning เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงให้เร็วกว่าโลก การเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อม ไม่มีใครแก่เกินเรียน ไม่ว่าในยุคสมัยใดก็ตาม หากเราสามารถปลูกฝังพฤติกรรมและแนวความคิดนี้ให้แก่ทุกคนในประชากรโลกได้ เราจะไม่มีความจำเป็นต้องกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะทุกครั้งที่เราพบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ เราจะสามารถปรับตัวตามได้ทันเวลา

#2 Empathy ต่อให้โลกทั้งใบ ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภัยธรรมชาติ หรือแม้แต่สิ่งอื่นใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่อย่างแน่นอน นั่นก็คือ สภาพความเป็นมนุษย์ ซึ่งตามมาด้วยมนุษยธรรม ความรัก ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเราวางพื้นฐานของเราอยู่บนความเข้าใจ โลกของเราจะมีความสุขได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

Content นี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Education Disruption Conference 2 - Reimagine Thailand's Education 2030" ในธีม Future of workforce

และเตรียมพบกับโปรแกรม CXO  - Chief Exponential Officer โดยคุณกระทิง พูนผล และ Disrupt หลักสูตรสร้างผู้นำแห่งอนาคต เร่งเครื่องธุรกิจเติบโต Exponential ข้ามพรมแดน
เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ ➡️ https://www.disruptignite.com

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง