Yui Jantanarak
Managing Director
Edtech Startup เป็นอีกหนึ่งตลาดมาแรงที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการเรียนรู้ เช่น ใช้เกมยกระดับการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ หรือ หลักสูตรเรียนออนไลน์ที่ช่วยเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาของพนักงาน
ศัตรูคู่แข่งของ Edtech Startup คือ วิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาได้สำเร็จ แต่ความสำเร็จในการยกระดับการศึกษาคงยากที่จะเกิดขึ้น ถ้าขาดความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียน ครู อาจารย์ พ่อแม่ สถาบันการศึกษา รวมถึงสังคม ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงติดอยู่ในกับดักการศึกษา ตลาด Edtech จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในโลกแห่งสตาร์ทอัพ
ตามรายงานของ TechCrunch กล่าวว่า ตลาดของ Edtech Startup นั้นซับซ้อนกว่าพวก Fintech หรือ Tech ด้านอื่น ๆ อยู่มาก เนื่องจากสตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ให้สะดวกสบายมากขึ้น แต่สำหรับโลก Edtech กลับเป็นเรื่องของโซลูชั่น คือ นำเทคโนโลยีมา “ดิสรัปท์” วิธีการเรียนรู้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว อาจไม่ได้เกิดขึ้นมาทันทีเหมือนตลาดอื่น ๆ และที่สำคัญคือ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกด้วย
ตามรายงานของ Pitchbook ในปี 2019 มีสตาร์ทอัพประมาณ 110 ตัวที่เป็นยูนิคอร์น แต่มีแค่ 2 ตัวเท่านั้นที่เป็น Edtech คือ Guild Education และ Duolingo
สตาร์ทอัพการศึกษาตัวแรกที่จะพูดถึง คือ Guild Education ก่อตั้งในปี 2015 เป็น B2B Startup ที่ให้บริการกับลูกค้าองค์กรใหญ่ ผู้เรียนจะเป็นวัยทำงานโดยเฉพาะพนักงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือร้านค้าปลีกต่าง ๆ ที่ต้องดรอปเรียน เนื่องจากไม่มีทุนทรัพย์ในการส่งค่าเล่าเรียน
เป้าหมายของ Guild Education คือ ช่วยเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาของพนักงาน โดยร่วมมือกับองค์กรใหญ่ผ่านโครงการจ่ายค่าเล่าเรียนให้เต็มจำนวนกับพนักงานที่สนใจจะเรียนต่อในระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรออนไลน์ ปัจจุบัน Guild Education มีหลักสูตรออนไลน์ในระบบรองรับมากกว่า 1,600 หลักสูตร หลักสูตรที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ก็จะได้รับความนิยมสูง เช่น Data Analytics และ Digital Marketing เช่นเดียวกับหลักสูตรเฉพาะทางอย่าง Healthcare
Guild Education ประสบความสำเร็จในการเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาของพนักงานให้กับหลายองค์กร เช่น Chipotle เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ Chipotle สามารถช่วยสนับสนุนค่าเล่าเรียนของพนักงานได้ 100% โดยคุณสมบัติของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการได้จะต้องเป็นพนักงานที่ทำงานกับบริษัทอย่างน้อย 3 เดือน และได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงอย่างน้อย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามรายงานล่าสุดของ Chipotle กล่าวว่า มีพนักงานของ Chipotle กำลังศึกษาอยู่ในระบบของ Guild Education มากกว่า 200 โปรแกรม
ส่วนประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการร่วมมือกับ Guild Education คือ สามารถเป็นสวัสดิการให้กับพนักงาน โดยจะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับนายจ้างและองค์กร เพราะจะได้ลูกจ้างที่มีทักษะมากขึ้น และยังส่งเสริมให้ลูกจ้างอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ โดยหวังช่วยลด turnover rate อีกทางหนึ่ง
ส่วนในมุมมองของลูกจ้างที่ได้รับสวัสดิการนี้ก็จะได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ แถมมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า และมีโอกาสที่จะไม่ย้ายงานสูงถึง 4.5 เท่า ถือเป็น pitching ที่น่าสนใจเลยทีเดียว ที่ win-win กันทุกฝ่ายทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้าง เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ดึงดูดนักลงทุน และทำให้ Guild Education ผ่านจุดประสบความสำเร็จเป็น Unicorn ไปเป็นที่เรียบร้อย
แพลตฟอร์มสอนภาษาต่างประเทศผ่านเกมอย่าง Duolingo ก่อตั้งในปี 2011 เป็นแอปพลิเคชันที่ให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี! ส่วนรายได้จะนำมาจากโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า Freemium คือ ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 7 เหรียญ/เดือน สำหรับฟีเจอร์พิเศษ เช่น ลบโฆษณา ใช้แบบออฟไลน์ได้ ฯลฯ
Duolingo ให้บริการบทเรียนภาษาต่างประเทศที่คนนิยมใช้สื่อสาร โดยเรียนผ่านเกม มีคอนเทนต์ขนาดสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ผู้ใช้งานสามารถฝึกฟัง พูด อ่าน ครบจบในแอปเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือมีภาษา Klingon ภาษาที่โด่งดังจากภาพยนตร์ในเรื่อง StartTrek ให้ได้เรียนอีกด้วย ล่าสุด Duolingo ใช้เงินที่ระดมทุนมาได้จากซีรีส์ F เร่งลงทุนใน R&D เพื่อใช้ AI และ Machine Learning ปรับบทเรียนเหมาะสมกับผู้เรียนเสมือนเรียนผ่านครูหรือติวเตอร์ (Personalization & Tailoring)
และที่น่าสนใจ คือ ตลาดการเรียนการสอนภาษาเป็นตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีรายงานกล่าวว่า ปี 2018 ตลาดการสอนภาษาออนไลน์มีมูลค่ากว่า 9 พันล้านเหรียญ และคาดว่าจะโตถึง 20 พันล้านเหรียญภายในอีกไม่กี่ปี สอดคล้องกับสถิติของ Duolingo แอปพลิเคชันเพื่อการเรียนรู้ที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุด กว่า 30 ล้านดาวน์โหลดและสร้างรายได้ต่อปีทะลุ 100 ล้านเหรียญ
จะเห็นได้ว่าสตาร์ทอัพยูนิคอร์นทั้ง 2 ตัว ตอบโจทย์ความท้าทายที่กล่าวไปข้างต้น ก้าวเป็น Edtech ที่ประสบความสำเร็จจนรายได้ทะลุพันล้านเหรียญ ด้วยโมเดลธุรกิจ B2B โฟกัสตลาดการเรียนรู้ของวัยทำงานมากกว่าเด็กในโรงเรียน หรือจะเป็น Niche Market ตลาดแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่มไปเลยอย่าง Duolingo แน่นอนว่าสตาร์ทอัพยูนิคอร์น 2 ตัวนี้ช่วยพัฒนาด้านการศึกษาอย่างก้าวกระโดด แต่การปรับตัวของภาพใหญ่อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในเวลาอันสั้น อาจเป็นสัญญาณที่ดีว่าโอกาสที่ Edtech Startup จะเติบโตในตลาดนี้ ยังคงมีอยู่อีกมาก
หากคุณเป็นคนที่สนใจ Edtech ห้ามพลาด! งาน Education Disruption Conference ครั้งที่ 2 งานที่จะชวนทุกท่านมาร่วมกันปฏิวัติการเรียนรู้ของคนไทยกับโจทย์ที่ท้าทายกว่าเดิม พร้อมโอกาสในการรับการสนับสนุนในการทำไอเดียของคุณให้เป็นจริงไปกับ StormBreaker EdTech Accelerator อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.disruptignite.com/conference